สุนัขสายพันธุ์ แจแปนนิส เทอร์เรียร์ (Japanese Terrier) สุนัขใช้งานอย่างสายพันธุ์
แจแปนนิส เทอร์เรียร์ นั้นมีความเเปลกเป็นอย่างยิ่ง ตั้งเเต่รูปร่างของมันเเละลายของสีขนที่สร้างความงุนงงให้กับบรรดาผู้ที่ชื่นชอบสุนัขเป็นอย่างมาก เเละกลายมาเป็นอีกหนึ่งในสุนัขที่มีความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง เเม้ว่าความนิยมในการเลี้ยงพวกมันจะกระจุกตัวอยู่เเต่ในกลุ่มเฉพาะก็ตามที

โดยสำหรับ
Japanese Terrier นั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า นิปปอน เทอร์เรียร์ เป็นสุนัขที่มี หัวค่อนข้างเล็ก นิยมตัดหางให้สั้นชิดกับลำตัว มีสีขน 3 สี ขนสีขาวจะมีมากที่สุดมีเพียงบางบริเวณจะมีขนสีดำและสีน้ำตาล นอกจากนี้ยังมีจุดหรือแต้มขนสีดังกล่าวแซมตามลำตัวดูสวยงามสะดุดตา เเม้ว่าจะมีความเเปลกเเต่กลับนิยมกันในวงจำกัดเท่านั้นเอง
ว่ากันว่า
แจแปนนิส เทอร์เรียร์ นั้นมีต้นกำเนิดมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 17 เเล้ว โดยเป็นการสืบสายพันธุ์มาจาก
สุนัขพันธุ์ฟอกซ์ เทอร์เรียร์ ซึ่งมีผู้นำเข้ามาในญี่ปุ่น ค.ศ.1702 ต่อมาได้มีการปรับปรุงสุนัขพันธุ์นี้ขึ้นในเมืองโกเบและเมืองโยโกฮามา ซึ่งเป็นเมืองท่าสำคัญของญี่ปุ่นในสมัยก่อน โดยพวกมันเป็นที่นิยมเลี้ยงกันในหมู่นายพรานชาวญี่ปุ่นจากความสามารถในการนำนกที่ถูกยิงกลับมาและจับหนู เเต่ที่โดดเด่นที่สุดเเละมีชื่อเสียงทำให้พวกมันเป็นที่รู้จักนั้นก็คือการที่พวกมันติดตามและคาบนกเป็ดน้ำที่ถูกยิงตกกลับมาได้ เเละทำให้นายพรานชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญเลี้ยงพวกมันเอาไว้ใช้งานตลอดสมัยเอโดะเลยทีเดียว หลังจากเข้าสู่ยุคเมจิเเล้ว จำนวนของพวกมันก็ค่อยๆ ลดลง เเต่ในปัจจุบันนั้นก็ยังคงมีความนิยมเลี้ยงกันอยู่ในภูมิภาคคันโตเเละคันไซของประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นเอง
Japanese Terrier นั้นเป็นสุนัขที่มีความสูงประมาณ 33 เซนติเมตร เเละมีน้ำหนักประมาณ 5-6 กิโลกรัมเท่านั้นเอง โดยที่ใบหูพับไปข้างหน้า ขายาวและตรง ขนสั้นเรียบมีจุดหรือแต้มสีอื่นกระจายทั่วไป เป็นสุนัขที่มีโครงร่างเล็ก เเต่มีความคล่องตัวสูงเป็นอย่างมากเเละว่ายน้ำเก่งเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งมีความอึดเป็นอย่างยิ่ง ส่วนลักษณะนิสัยใจคอนั้นก็เป็นสุนัขที่ปรับตัวง่าย เเละช่างประจบเป็นอย่างยิ่ง
แจแปนนิส เทอร์เรียร์ นั้นนิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นเเละในบางบริเวณอีกด้วย ส่วนในประเทศไทยนั้นไม่ได้รับความนิยมเลี้ยงกันเเต่อย่างใด ทำให้การพบเจอพวกมันตัวเป็นๆ นั้นมีเเต่ต้องไปชมที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นเอง นับว่าเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจและน่าเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง