ทุกคนที่เลี้ยงหมา บางคนอาจคิดว่ามันเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อครอบครัว ทั้งความผูกพัน และเพื่อความสนุกสนาน หรือเป็นเพื่อนเล่นยามเหงา หรือบางคนอาจคิดว่ามันไม่มีความสามารถอะไรเลย นอกจากกิน กับนอน และเห่าคนข้างบ้าน หรือบางคนเชื่อว่ามันอาจมองเห็นผีได้ 555 แต่ถ้าเราจะบอกคุณว่า จริงๆแล้วสุนัขของพวกคุณมีพลังอำนาจบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อ ซึ่งคุณอาจจะรู้ แต่ก็ไม่ได้สนใจมันมากนะ แต่เราจะมาตรอกย้ำให้เห็นเห็นคุณค่าของมันที่มากกว่า การกิน และการนอนกรน ของพวกมันให้คุณได้รู้ ว่ามันมีพลังวิเศษเพียงใด
มีจมูกที่ติดจรวด คุณรู้ดีอยู่แล้วเรื่องการดมกลิ่นที่ดีเลิศของมัน แต่คุณยังไม่รู้ว่าการดมกลิ่นของมันนั้น มีประสาทสัมผัสมากกว่าคนตั้ง 10,000 – 100,000 เท่า โดยระบบการได้รับกลิ่นของน้องหมาจะซึมซับโมเลกุลของสารเคมี ความชื้น ไอระเหยที่ล่องลอยอยู่ในอากาศผ่านเนื้อเยื่อภายในจมูก และส่งข้อมูลไปยังสมอง ซึ่งมันทำให้เราไม่แปลกใจเลยว่า เวลาคุณกลับมาถึงบ้านอยู่แค่หน้าประตูบ้าน มันจะรู้ทันทีเลยว่าเป็นคุณ
ช่วยให้คุณดูดีขึ้น น้องหมาสามารถช่วยให้คุณเป็นที่น่าดึงดูดของเพศตรงข้ามได้ จากการสำรวจคน 2,000 ของประเทศอังกฤษพบว่าหนึ่งในห้าของผู้หญิง กล่าวว่าคนที่มีสุนัข หรือจูงสุนัขอยู่ น่าสนใจและอยากจะทำความรู้จัก เพราะดูเป็นคนที่อ่อนโยนและใจดี
ตรวจสอบโรคร้าย มีงานกรณีศึกษาและงานวิจัยหลายชิ้นได้ทำการทดลองเกี่ยวกับการรับรู้กลิ่น มะเร็งและเบาหวานจากผู้ป่วยโดยระบุว่า เซลล์มะเร็ง เบาหวาน อาการลมชัก หรือโรคอื่นๆ จะมีแบคทีเรีย ความผิดปกติของฮอร์โมน หรือ สารเคมีในร่างกาย ออกมาพร้อมกับกลิ่นลมหายใจ ปัสสาวะ และเหงื่อ ซึ่งสุนัขจะสามารถตรวจจับกลิ่นโรคมะเร็งได้จากกลิ่นลมหายใจของผู้ป่วย โดยเฉพาะมะเร็งปอดและมะเร็งทรวงอกได้อย่างแม่นยำถึง 80 – 99 เปอร์เซ็นต์ แม้จะเป็นมะเร็งที่เพิ่งอยู่ในระยะเริ่มต้นก็ตาม และตอนนี้ได้มีการฝึกสุนัขเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยการเตือนให้พวกเขาลดระดับอินซูลินเมื่อมีน้ำตาลในเม็ดเลือดเกินกำหนด
เตือนภัยพิบัติ สุนัขสามารถคาดการณ์พายุหรือแม้กระทั่งการเกิดแผ่นดินไหว นักวิจัยในประเทศญี่ปุ่นพบเข็มร้อยละ 60 ในพฤติกรรมแปลก ๆ ในหมู่สุนัข เช่น เห่ามากเกินไปในเดือนก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหว เจ้าของสุนัขร้อยละ 67 ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่าสัตว์เลี้ยงของตนทำท่าแปลก ๆ ก่อนที่จะมีพายุ ดังนั้นคุณควรใส่ใจกับพฤติกรรมแปลกๆของพวกมัน
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่สามารถบ่งชี้ได้ถึงสัญชาตญาณเตือนภัยของสัตว์ เกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2518 นักวิทยาศาสตร์ในเมืองไฮชิง ประเทศจีน ต่างสงสัยเมื่อ "สุนัข" จำนวนมากเริ่มเห่าหอนไม่หยุดหย่อนและมีอาการกระวนกระวาย จนนักวิทยาศาสตร์เกิดความเชื่อมั่นว่ากำลังจะมีภัยพิบัติเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ทำการอพยพผู้คน หนีภัยออกจากเมืองในทันที เพียง 5 ชั่วโมงครึ่งหลังจากนั้นก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่เมือง วัดแรงสั่นสะเทือนได้ระดับ 7.3 แมกนิจูด จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนั้น มีผู้คนเสียชีวิตแค่ 2,000 คน ส่วนตัวเมืองนั้นพังราบ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์กันว่าหากไม่ได้ทำการอพยพ คงจะมีผู้เสียชีวิตถึง 150,000 คน
ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เมืองได้รับการอพยพหนีก่อนเกิดแผ่นดินไหว การสังเกตพฤติกรรมของสัตว์ในครั้งนี้ ทำให้ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายว่า สัญชาตญาณของสัตว์ช่วยเตือนถึงอุบัติภัยที่กำลังจะเกิดขึ้น
สามารถมองเห็นในที่มืด สุนัขสามารถมองเห็นในที่มืดได้ดีกว่ามนุษย์เรา สุนัขมีประสาทตาที่ทำให้ภาพนั้นสะท้อนกลับเรียกว่า tapetum lucidum ที่จะสะท้อนแสงกลับไปที่เซลล์รับแสงในดวงตา เพราะ เซลล์รับภาพในดวงตาคนมี 2 แบบ
1. อยู่ตรงกลางดวงตา มองเห็นได้ดีในที่มีแสงสว่างแยกสีได้มาก
2. อยู่รอบๆ ดวงตา รับภาพได้แม้แสงน้อย แต่แยกสีไม่ชัด
ซึ่งดวงตาของสุนัข ก็พบว่าประกอบด้วยเซลล์แบบที่ 2 เป็นจำนวนมาก ทำให้มันมองในที่มืดได้ดีกว่ามนุษย์เรานั่นเอง
บำบัดโรค ซิกมันด์ ฟรอยด์ นักจิตวิเคราะห์ผู้โด่งดัง มาจนถึง ด.ร.บอริส เลวิสัน (Dr.Boris Levison) ที่เป็นผู้ริเริ่มนำ การบำบัดโดยสัตว์เลี้ยง มาใช้ และ เริ่มจากสุนัข ด้วยการปล่อยให้เด็กอยู่กับสุนัข ทำให้เขาพบว่า เด็ก ๆ พยายามพูดคุยกับเจ้าหมาน้อย และนั่นก็เป็นที่มาให้เกิดการศึกษาเรื่องนี้ โดยพบว่า การที่พวกเราได้เล่นได้พูดคุย โอบกอดสัตว์เลี้ยง มันทำให้พวกเรากลับไปสู่ความเป็นเด็กน้อยอีกครั้ง ซึ่งไม่ใช่แค่ความสุขธรรมดา แต่ยังเป็นความสุขที่เยียวยาจิตใจ รักษาโรคทางกายได้อีกด้วย
ปัจจุบันนี้ สถาบันที่นำการบำบัดโดยสุนัขมาใช้ มักเลือกสุนัขพันธุ์ที่รู้กันว่าแสนเชื่อง และอยู่ร่วมกับเด็ก ๆ ได้ อย่าง ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์, โกลเด้นรีทรีฟเวอร์, ชิสุ, พุดเดิ้ล ฯลฯ สงสัยกันใช่ไหมว่าทำไมถึงบำบัดรักษาโรคที่ไม่เกี่ยวกับทางจิตใจได้ ก็อย่างเช่น ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตนั้น การนำสุนัขมาเป็นเพื่อนเดินเล่น ก็เป็นทางรักษาของนักกายภาพบำบัด โดยผู้ป่วยจะจูงสุนัขเดินเล่น และได้โยนอะไรให้พวกเขาคาบกลับมาให้ด้วย รวมถึงการแปรงขนให้สุนัข ก็ได้บริหารมือและแขน นอกจากนี้ยังมีโรคซึมเศร้าที่ช่วยให้ผู้ป่วยอาการดีขึ้นเมื่อได้อยู่กับ สุนัข
คุณอาจมองเห็นสุนัขของคุณเป็นแค่ตัวที่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะ หรือเป็นที่คลายเหงา แต่ความสามารถของมันนั้นเกินจะบรรยายจริงๆ