เรื่อง: 17 เรื่องลับ ๆ ของแมวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้
 
 8253

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

My Name: ขายหมา ออฟไลน์
Administrator
เพศ: ชาย
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
15 ก.ค. 64, 19:10:50น.
17 เรื่องลับ ๆ ของแมวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

          แม้แมวจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่น่าค้นหาและมีสิ่งที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพพฤติกรรม หรืออารมณ์ของแมว และเป็นเพราะแมวไม่อาจสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับคนได้ ดังนั้น จึงนำเรื่องลับ ๆ ของแมว ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาเปิดเผยให้ทราบกัน มีอะไรบ้าง ทาสแมวลองไปอ่านเลย




1.แมวมีเซนส์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว

          เนื่องจากใต้อุ้งเท้าของแมวค่อนข้างเซนซิทีฟดังนั้นแมวทุกตังจึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไรส่วนคุณเองก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลก ๆ หรือแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเองและด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีคนบางกลุ่มใช้อุ้งเท้าแมวในการหาค้นหาเหตุแผ่นดินไหวจากแรงสะเทือนด้วย

2. กลืนและย่อยอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว

          อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กระเพาะของแมวสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับเจ้า ลิล บับ (Lil Bub) หนึ่งในแมวเซเลบชื่อดังจากโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นแมวที่ไม่มีฟันตั้งแต่กำเนิด จะได้ไม่มีอะไรให้กังวล

3. แมวเป็นนายที่แท้จริงของบ้าน

          เพราะแมวสามารถเปล่งโทนเสียงเพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของคนได้ อย่างเช่น ในเวลาที่แมวต้องการจะกินอาหาร มันก็จะใช้โทนเสียงที่ฟังคล้าย ๆ กับเสียงร้องไห้ออกมา เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณให้เอาอาหารให้มันเร็วขึ้น เป็นต้น

4. แมวก็มีฝันเหมือนกัน

          ความฝัน มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และสบายตัวมากพอที่จะทำให้พวกมันหลับลึก โดยในช่วงดังกล่าวแมวจะมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับเวลาที่คนกำลังฝันนั่นเอง

5. แมวไม่เข้าใจการโดนลงโทษ

          การโดนลงโทษไม่มีผลใด ๆ กับแมวเลย เพราะแมวไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คุณทำ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรสอนด้วยความอดทน คำชม และตอบแทนด้วยรางวัล ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า

6. การแตะจมูกเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง

          เวลาที่เห็นแมวเอาจมูกมาแตะกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะอาการดังกล่าวเป็นแค่การทักทายแบบแมวทั่วไป แต่อย่างไรพวกมันจะทักทายด้วยวิธีดังกล่าวกับแมวที่คุ้นเคยเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่การสื่อสารเพื่อเช็กข้อมูลว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง

7. ไม่มีใครรู้ว่า เสียงคราง เกิดจากอะไร

          กระทั่งถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้ว่า เสียงครางของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดจากระบบส่วนใดกันแน่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากบริเวณลำคอ แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่า น่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดมากกว่า

8. แมวครางเพื่อแสดงความพอใจ

          ถึงแม้แมวจะครางเมื่อรู้สึกพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งที่แมวครางเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณคุ้นเคยกับแมวมากพอ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงครางของแมวได้ด้วยตัวเอง

9. แมวส่งเสียงครางได้นานกว่าที่คิด

          หลายคนอาจจะคิดว่า แมวส่งเสียงครางเป็นบางเวลาและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่กำลังมีความสุขหรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วแมวสามารถครางได้นานกว่านั้น แต่บางตัวอาจครางนานเป็นสัปดาห์เลยก็มี

10. ลูกแมวครางได้โทนเสียงเดียว

          ถึงแม้ว่าในขณะที่เป็นลูกแมวจะสามารถส่งเสียงครางได้เพียงโทนเสียงเดียว แต่ทว่าหลังจากที่พวกมันโตขึ้น พวกมันจะสามารถส่งเสียงครางได้ถึง 2-3 โทนเสียงเลยทีเดียว



11. แมวใช้เสียงในการสื่อสารกับเจ้าของ

          แมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกัน กับที่พวกมันเคยใช้สื่อสารกับเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว และจะรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ใช้สื่อสารกับเจ้าของเสมอ แต่จะใช้โทนเสียงที่แตกต่างออกไปเมื่อสื่อสารกับแมวตัวอื่น

12. ช็อกโกแลต คืออาหารต้องห้าม

          ไม่ใช่แค่สุนัขเท่านั้นที่ไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้แต่แมวก็กินขนมชนิดนี้ไม่ได้เหมือนกันเพราะช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้เลย

13. ไม่ควรผูกมิตรด้วยการสบตา

          เพราะแมวไม่ชอบการสบตาและจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนคุกคามโดยหากแมวหันไปสบตากับอะไบางอย่างโดยบังเอิญ พวกมันจะกระพริบตาและหรี่ตาลงทันที ถ้าหากคุณอยากจะผูกมิตรกับแมวก็ควรจะใช้วิธีอื่น หรือมองไปด้านข้างแทนที่จะสบตากับแมวโดยตรง

14. เนื้อสดช่วยบำรุงฟัน

          เนื้อสัตว์สด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม ต่างก็มีประโยชน์กับแมวด้วยกันทั้งนั้น เพราะการเคี้ยวเนื้อสดจะช่วยให้เหงือกและฟันของแมวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงยิ่งขึ้น

15. ทนต่อความร้อนได้ดี

          สาเหตุที่ทำให้แมวสามารถทนกับความร้อนได้ดีก็เพราะว่าบรรพบุรุษของแมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง

16. ชีพจรเปลี่ยนแปลงตามอายุ

          โดยปกติอัตราความเร็วของชีพจรของแมว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแมว ซึ่งชีพจรของแมวจะเต้นช้าลงเมื่อแมวมีอายุเพิ่มขึ้น

17. แมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน

          ถึงแม้เจ้าของไม่อาจสัมผัสได้จากผิวหนังตามลำตัวของแมว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แมวไม่มีเหงื่อซะเดียว เพราะจริง ๆ แล้วแมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะปรากฏบริเวณอุ้งเท้านั่นเอง



Tags: