แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - dognews

1
ชายหนุ่มไปเดินเที่ยวสวนสัตว์หวังจะดูเสือชีตาห์ แต่ดันเจอน้องหมานอนอยู่ในกรงแทน








  เป็นไวรัลที่สร้างรอยยิ้มให้กับชาวออนไลน์ทั่วโลก เมื่อหนุ่มนักท่องเที่ยวถึงกับเกิดอาการงง เพราะอุตส่าห์เดินทางมาเที่ยวสวนสัตว์ หวังมาดูเสือชีตาห์แอฟริกาใกล้ ๆ แต่พอมองเข้าไปในกรงดี ๆ กลับกลายเป็นน้องหมาสายพันธุ์ลาบลาดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในกรงแทนซะงั้น
 
     ชายหนุ่มผู้ซึ่งเดินทางไปเที่ยวชมสวนสัตว์ชื่อว่า Turtle Back zoo ในเวสต์ออเรนจ์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ภาพถ่ายลงบนเว็บไซต์ Reddit พร้อมแคปชันสั้น ๆ ว่า “มั่นใจแบบ 99% ว่าในกรงนั้นไม่ใช่ชีตาห์”





   หลังจากนั้นไม่นาน ชาวออนไลน์ก็ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า ‘โบวี่’ เป็นน้องหมาของสวนสัตว์นั่นเอง อีกทั้ง โบวี่ ยังเป็นเพื่อนสนิทของ ‘นันดิ’ เสือชีตาห์เจ้าของกรงอีกด้วย
 
     ด้านเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์เล่าว่า เสือชีตาห์ เป็นสัตว์นักล่าที่มีความเครียดสูงมาก ทำให้เขาต้องมีเพื่อนเล่นไว้คลายเครียดเสมอ
 
     ดังนั้น นันดิ และ โบวี่ จึงเป็นเพื่อนซี้ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้งคู่สนิทกันมาก ไม่ว่า นันดิ จะเดินไปไหน โบวี่ จะคอยดูแลและตามไปด้วย แม้กระทั่งเวลาที่ นันดิ ต้องออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป โบวี่ ก็จะคอยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ




2
ชายหนุ่มไปเดินเที่ยวสวนสัตว์หวังจะดูเสือชีตาห์ แต่ดันเจอน้องหมานอนอยู่ในกรงแทน








  เป็นไวรัลที่สร้างรอยยิ้มให้กับชาวออนไลน์ทั่วโลก เมื่อหนุ่มนักท่องเที่ยวถึงกับเกิดอาการงง เพราะอุตส่าห์เดินทางมาเที่ยวสวนสัตว์ หวังมาดูเสือชีตาห์แอฟริกาใกล้ ๆ แต่พอมองเข้าไปในกรงดี ๆ กลับกลายเป็นน้องหมาสายพันธุ์ลาบลาดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในกรงแทนซะงั้น
 
     ชายหนุ่มผู้ซึ่งเดินทางไปเที่ยวชมสวนสัตว์ชื่อว่า Turtle Back zoo ในเวสต์ออเรนจ์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ภาพถ่ายลงบนเว็บไซต์ Reddit พร้อมแคปชันสั้น ๆ ว่า “มั่นใจแบบ 99% ว่าในกรงนั้นไม่ใช่ชีตาห์”





   หลังจากนั้นไม่นาน ชาวออนไลน์ก็ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า ‘โบวี่’ เป็นน้องหมาของสวนสัตว์นั่นเอง อีกทั้ง โบวี่ ยังเป็นเพื่อนสนิทของ ‘นันดิ’ เสือชีตาห์เจ้าของกรงอีกด้วย
 
     ด้านเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์เล่าว่า เสือชีตาห์ เป็นสัตว์นักล่าที่มีความเครียดสูงมาก ทำให้เขาต้องมีเพื่อนเล่นไว้คลายเครียดเสมอ
 
     ดังนั้น นันดิ และ โบวี่ จึงเป็นเพื่อนซี้ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้งคู่สนิทกันมาก ไม่ว่า นันดิ จะเดินไปไหน โบวี่ จะคอยดูแลและตามไปด้วย แม้กระทั่งเวลาที่ นันดิ ต้องออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป โบวี่ ก็จะคอยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ




3
ชายหนุ่มไปเดินเที่ยวสวนสัตว์หวังจะดูเสือชีตาห์ แต่ดันเจอน้องหมานอนอยู่ในกรงแทน








  เป็นไวรัลที่สร้างรอยยิ้มให้กับชาวออนไลน์ทั่วโลก เมื่อหนุ่มนักท่องเที่ยวถึงกับเกิดอาการงง เพราะอุตส่าห์เดินทางมาเที่ยวสวนสัตว์ หวังมาดูเสือชีตาห์แอฟริกาใกล้ ๆ แต่พอมองเข้าไปในกรงดี ๆ กลับกลายเป็นน้องหมาสายพันธุ์ลาบลาดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในกรงแทนซะงั้น
 
     ชายหนุ่มผู้ซึ่งเดินทางไปเที่ยวชมสวนสัตว์ชื่อว่า Turtle Back zoo ในเวสต์ออเรนจ์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ภาพถ่ายลงบนเว็บไซต์ Reddit พร้อมแคปชันสั้น ๆ ว่า “มั่นใจแบบ 99% ว่าในกรงนั้นไม่ใช่ชีตาห์”





   หลังจากนั้นไม่นาน ชาวออนไลน์ก็ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า ‘โบวี่’ เป็นน้องหมาของสวนสัตว์นั่นเอง อีกทั้ง โบวี่ ยังเป็นเพื่อนสนิทของ ‘นันดิ’ เสือชีตาห์เจ้าของกรงอีกด้วย
 
     ด้านเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์เล่าว่า เสือชีตาห์ เป็นสัตว์นักล่าที่มีความเครียดสูงมาก ทำให้เขาต้องมีเพื่อนเล่นไว้คลายเครียดเสมอ
 
     ดังนั้น นันดิ และ โบวี่ จึงเป็นเพื่อนซี้ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้งคู่สนิทกันมาก ไม่ว่า นันดิ จะเดินไปไหน โบวี่ จะคอยดูแลและตามไปด้วย แม้กระทั่งเวลาที่ นันดิ ต้องออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป โบวี่ ก็จะคอยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ




4
ชายหนุ่มไปเดินเที่ยวสวนสัตว์หวังจะดูเสือชีตาห์ แต่ดันเจอน้องหมานอนอยู่ในกรงแทน








  เป็นไวรัลที่สร้างรอยยิ้มให้กับชาวออนไลน์ทั่วโลก เมื่อหนุ่มนักท่องเที่ยวถึงกับเกิดอาการงง เพราะอุตส่าห์เดินทางมาเที่ยวสวนสัตว์ หวังมาดูเสือชีตาห์แอฟริกาใกล้ ๆ แต่พอมองเข้าไปในกรงดี ๆ กลับกลายเป็นน้องหมาสายพันธุ์ลาบลาดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่กำลังนอนหลับสบายอยู่ในกรงแทนซะงั้น
 
     ชายหนุ่มผู้ซึ่งเดินทางไปเที่ยวชมสวนสัตว์ชื่อว่า Turtle Back zoo ในเวสต์ออเรนจ์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โพสต์ภาพถ่ายลงบนเว็บไซต์ Reddit พร้อมแคปชันสั้น ๆ ว่า “มั่นใจแบบ 99% ว่าในกรงนั้นไม่ใช่ชีตาห์”





   หลังจากนั้นไม่นาน ชาวออนไลน์ก็ต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นว่า น้องหมาตัวนี้มีชื่อว่า ‘โบวี่’ เป็นน้องหมาของสวนสัตว์นั่นเอง อีกทั้ง โบวี่ ยังเป็นเพื่อนสนิทของ ‘นันดิ’ เสือชีตาห์เจ้าของกรงอีกด้วย
 
     ด้านเจ้าหน้าที่ดูแลสวนสัตว์เล่าว่า เสือชีตาห์ เป็นสัตว์นักล่าที่มีความเครียดสูงมาก ทำให้เขาต้องมีเพื่อนเล่นไว้คลายเครียดเสมอ
 
     ดังนั้น นันดิ และ โบวี่ จึงเป็นเพื่อนซี้ที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้งคู่สนิทกันมาก ไม่ว่า นันดิ จะเดินไปไหน โบวี่ จะคอยดูแลและตามไปด้วย แม้กระทั่งเวลาที่ นันดิ ต้องออกมาโชว์ตัวให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป โบวี่ ก็จะคอยอยู่ใกล้ ๆ เสมอ




5
    มินนี่ สุนัขบำบัด ที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลสุขภาพ






    กลายเป็นไวรัลสุดอบอุ่นหัวใจ เรื่องราวของ  ‘มินนี่’ สุนัขบำบัดที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยใน The Harbour โรงพยาบาลสุขภาพจิต ในเมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ
 
     ลิซ่า วิสเซล หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของและทำงานเป็นผู้ช่วยในด้านการดูแลสุขภาพและอาชีวอนามัยเล่าว่า มินนี่ เป็นน้องหมาที่น่าทึ้งมาก ๆ เธอฉลาดและชอบมอบรอยยิ้มให้กับผู้คนในโรงพยาบาล
 
     เมื่อหลายปีก่อน ลิซ่า ได้เจอกับแม่ของมินนี่ ตอนนั้นมินนี่ยังอยู่ในท้อง และทันทีที่มินนี่เกิดมา เธอก็รู้ทันทีเลยว่า มินนี่จะต้องเป็นน้องหมาบำบัดที่เก่งที่สุดและมีความพิเศษกว่าลูกหมาตัวอื่น ๆ ลิซ่าจึงได้รับมินนี่มาเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา






    มินนี่ เป็นน้องหมาที่ผ่านการประเมินการเป็นสุนัขบำบัดจิตของทางโรงพยาบาล และได้เข้าร่วมโครงการ #WoofWednesday ทุก ๆ วันพุธมินนี่จะมาทำหน้าที่น้องหมานักบำบัด คอยวิ่งไปทั่ว ๆ วอร์ดเพื่อมอบกำลังใจให้กับผู้ป่วยได้หายจากอาการซึมเศร้า และช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงพยาบาลจัดขึ้น
 
     ทางด้านของเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า สุนัข เป็นเพื่อนและนักบำบัดที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกเขาสามารถมอบความอบอุ่นและกำลังใจให้กับผู้ป่วย อีกทั้งยังคอยสร้างรอยยิ้มและลดอาการซึมเศร้าอีกด้วย ไม่ว่าคน ๆ นั้น จะเป็นเจ้าของหรือคนแปลกหน้าก็ตาม



6
    มินนี่ สุนัขบำบัด ที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลสุขภาพ






    กลายเป็นไวรัลสุดอบอุ่นหัวใจ เรื่องราวของ  ‘มินนี่’ สุนัขบำบัดที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยใน The Harbour โรงพยาบาลสุขภาพจิต ในเมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ
 
     ลิซ่า วิสเซล หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของและทำงานเป็นผู้ช่วยในด้านการดูแลสุขภาพและอาชีวอนามัยเล่าว่า มินนี่ เป็นน้องหมาที่น่าทึ้งมาก ๆ เธอฉลาดและชอบมอบรอยยิ้มให้กับผู้คนในโรงพยาบาล
 
     เมื่อหลายปีก่อน ลิซ่า ได้เจอกับแม่ของมินนี่ ตอนนั้นมินนี่ยังอยู่ในท้อง และทันทีที่มินนี่เกิดมา เธอก็รู้ทันทีเลยว่า มินนี่จะต้องเป็นน้องหมาบำบัดที่เก่งที่สุดและมีความพิเศษกว่าลูกหมาตัวอื่น ๆ ลิซ่าจึงได้รับมินนี่มาเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา






    มินนี่ เป็นน้องหมาที่ผ่านการประเมินการเป็นสุนัขบำบัดจิตของทางโรงพยาบาล และได้เข้าร่วมโครงการ #WoofWednesday ทุก ๆ วันพุธมินนี่จะมาทำหน้าที่น้องหมานักบำบัด คอยวิ่งไปทั่ว ๆ วอร์ดเพื่อมอบกำลังใจให้กับผู้ป่วยได้หายจากอาการซึมเศร้า และช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงพยาบาลจัดขึ้น
 
     ทางด้านของเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า สุนัข เป็นเพื่อนและนักบำบัดที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกเขาสามารถมอบความอบอุ่นและกำลังใจให้กับผู้ป่วย อีกทั้งยังคอยสร้างรอยยิ้มและลดอาการซึมเศร้าอีกด้วย ไม่ว่าคน ๆ นั้น จะเป็นเจ้าของหรือคนแปลกหน้าก็ตาม



7
    มินนี่ สุนัขบำบัด ที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลสุขภาพ






    กลายเป็นไวรัลสุดอบอุ่นหัวใจ เรื่องราวของ  ‘มินนี่’ สุนัขบำบัดที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยใน The Harbour โรงพยาบาลสุขภาพจิต ในเมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ
 
     ลิซ่า วิสเซล หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของและทำงานเป็นผู้ช่วยในด้านการดูแลสุขภาพและอาชีวอนามัยเล่าว่า มินนี่ เป็นน้องหมาที่น่าทึ้งมาก ๆ เธอฉลาดและชอบมอบรอยยิ้มให้กับผู้คนในโรงพยาบาล
 
     เมื่อหลายปีก่อน ลิซ่า ได้เจอกับแม่ของมินนี่ ตอนนั้นมินนี่ยังอยู่ในท้อง และทันทีที่มินนี่เกิดมา เธอก็รู้ทันทีเลยว่า มินนี่จะต้องเป็นน้องหมาบำบัดที่เก่งที่สุดและมีความพิเศษกว่าลูกหมาตัวอื่น ๆ ลิซ่าจึงได้รับมินนี่มาเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา






    มินนี่ เป็นน้องหมาที่ผ่านการประเมินการเป็นสุนัขบำบัดจิตของทางโรงพยาบาล และได้เข้าร่วมโครงการ #WoofWednesday ทุก ๆ วันพุธมินนี่จะมาทำหน้าที่น้องหมานักบำบัด คอยวิ่งไปทั่ว ๆ วอร์ดเพื่อมอบกำลังใจให้กับผู้ป่วยได้หายจากอาการซึมเศร้า และช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงพยาบาลจัดขึ้น
 
     ทางด้านของเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า สุนัข เป็นเพื่อนและนักบำบัดที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกเขาสามารถมอบความอบอุ่นและกำลังใจให้กับผู้ป่วย อีกทั้งยังคอยสร้างรอยยิ้มและลดอาการซึมเศร้าอีกด้วย ไม่ว่าคน ๆ นั้น จะเป็นเจ้าของหรือคนแปลกหน้าก็ตาม



8
    มินนี่ สุนัขบำบัด ที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลสุขภาพ






    กลายเป็นไวรัลสุดอบอุ่นหัวใจ เรื่องราวของ  ‘มินนี่’ สุนัขบำบัดที่คอยสร้างรอยยิ้มให้กับผู้ป่วยใน The Harbour โรงพยาบาลสุขภาพจิต ในเมืองแบล็กพูล ประเทศอังกฤษ
 
     ลิซ่า วิสเซล หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของและทำงานเป็นผู้ช่วยในด้านการดูแลสุขภาพและอาชีวอนามัยเล่าว่า มินนี่ เป็นน้องหมาที่น่าทึ้งมาก ๆ เธอฉลาดและชอบมอบรอยยิ้มให้กับผู้คนในโรงพยาบาล
 
     เมื่อหลายปีก่อน ลิซ่า ได้เจอกับแม่ของมินนี่ ตอนนั้นมินนี่ยังอยู่ในท้อง และทันทีที่มินนี่เกิดมา เธอก็รู้ทันทีเลยว่า มินนี่จะต้องเป็นน้องหมาบำบัดที่เก่งที่สุดและมีความพิเศษกว่าลูกหมาตัวอื่น ๆ ลิซ่าจึงได้รับมินนี่มาเลี้ยงตั้งแต่นั้นมา






    มินนี่ เป็นน้องหมาที่ผ่านการประเมินการเป็นสุนัขบำบัดจิตของทางโรงพยาบาล และได้เข้าร่วมโครงการ #WoofWednesday ทุก ๆ วันพุธมินนี่จะมาทำหน้าที่น้องหมานักบำบัด คอยวิ่งไปทั่ว ๆ วอร์ดเพื่อมอบกำลังใจให้กับผู้ป่วยได้หายจากอาการซึมเศร้า และช่วยกระตุ้นให้ผู้ป่วยร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงพยาบาลจัดขึ้น
 
     ทางด้านของเจ้าหน้าที่ยังบอกอีกว่า สุนัข เป็นเพื่อนและนักบำบัดที่ดีที่สุดของมนุษย์ พวกเขาสามารถมอบความอบอุ่นและกำลังใจให้กับผู้ป่วย อีกทั้งยังคอยสร้างรอยยิ้มและลดอาการซึมเศร้าอีกด้วย ไม่ว่าคน ๆ นั้น จะเป็นเจ้าของหรือคนแปลกหน้าก็ตาม



9
     นาทีเฉียดตายของน้องหมา 2 ตัว ที่เข้าต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง








     น้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักเจ้าของมาก ๆ พวกเขายอมเอาชีวิตเข้าแลกถ้าเจ้าของได้รับอันตราย เหมือนเรื่องราวของ ‘แทนเนอร์’ น้องหมาสายพันธุ์วิซสลา วัย 3 ปี และ ‘ลิซโต’ น้องหมาสายพันธุ์มินิเอเจอร์ พินช์เชอร์ ที่ต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง
 
     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ บ็อบ เมอร์เรย์ ชายหนุ่มจากรัฐคอนเนทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา บังเอิญได้ยินเสียงเห่าของน้องหมา ดังมาจากสวนหลังบ้าน เขาจึงเดินออกไปดู สิ่งที่เขาเห็นคือ แทนเนอร์ และ ลิซโต กำลังสู้อยู่กับงูหางกระดิ่งที่ยาวเกือบ 1.5 เมตร
 
     บ๊อบ รีบหยิบท่อนไม้เพื่อตีไล่ให้น้องหมาออกห่างจากงู แต่มันสายเกินไป เพราะ แทนเนอร์ และ ลิซโต โดนงูหางกระดิ่งกัดเข้าที่ใบหน้าเต็ม ๆ ซึ่งพิษของงูชนิดนี้ร้ายแรง จนถึงขั้นตายได้
 
     บ๊อบและภรรยา รีบพาน้องหมาทั้งสองตัว ส่งโรงพยาบาลทันที บ๊อบเล่าว่า แทนเนอร์ และ ลิซโต เกือบไม่รอดจากเหตุการณ์นี้แล้ว เพราะโรงพยาบาลที่พวกเขาพาน้องหมาไป ไม่มียาต้านพิษ จึงทำให้ต้องรอส่งตัวยาจากโรงพยาบาลอื่น










  แทนเนอร์ มีอาการบวมบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง และต้องได้รับออกซิเจนโดยด่วน ส่วน ลิซโต ต้องเข้าผ่าตัดหลอดเลือดบริเวณลำคอ แต่โชคดีที่น้องหมาทั้งสองตัวรอดชีวิตมาได้
 
     งูหางกระดิ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐคอนเนทิคัต เป็นงูชนิดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิต และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของสัตว์เลี้ยงและคนในรัฐ ถึงแม้มันจะเป็นงูที่ใกล้สูญพันธ์ุแล้วก็ตาม ลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย ๆ คือ ลำตัวของมันจะเป็นลายทางน้ำตาลออกแดงสลับดำ
 
     ถึงมันจะมีสีที่สวยงามแค่ไหน แต่ถ้าใครได้เจอต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงและตัวเองออกจากบริเวณนั้นทันที ไม่ว่ามันจะเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษก็ตาม



10
     นาทีเฉียดตายของน้องหมา 2 ตัว ที่เข้าต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง








     น้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักเจ้าของมาก ๆ พวกเขายอมเอาชีวิตเข้าแลกถ้าเจ้าของได้รับอันตราย เหมือนเรื่องราวของ ‘แทนเนอร์’ น้องหมาสายพันธุ์วิซสลา วัย 3 ปี และ ‘ลิซโต’ น้องหมาสายพันธุ์มินิเอเจอร์ พินช์เชอร์ ที่ต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง
 
     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ บ็อบ เมอร์เรย์ ชายหนุ่มจากรัฐคอนเนทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา บังเอิญได้ยินเสียงเห่าของน้องหมา ดังมาจากสวนหลังบ้าน เขาจึงเดินออกไปดู สิ่งที่เขาเห็นคือ แทนเนอร์ และ ลิซโต กำลังสู้อยู่กับงูหางกระดิ่งที่ยาวเกือบ 1.5 เมตร
 
     บ๊อบ รีบหยิบท่อนไม้เพื่อตีไล่ให้น้องหมาออกห่างจากงู แต่มันสายเกินไป เพราะ แทนเนอร์ และ ลิซโต โดนงูหางกระดิ่งกัดเข้าที่ใบหน้าเต็ม ๆ ซึ่งพิษของงูชนิดนี้ร้ายแรง จนถึงขั้นตายได้
 
     บ๊อบและภรรยา รีบพาน้องหมาทั้งสองตัว ส่งโรงพยาบาลทันที บ๊อบเล่าว่า แทนเนอร์ และ ลิซโต เกือบไม่รอดจากเหตุการณ์นี้แล้ว เพราะโรงพยาบาลที่พวกเขาพาน้องหมาไป ไม่มียาต้านพิษ จึงทำให้ต้องรอส่งตัวยาจากโรงพยาบาลอื่น










  แทนเนอร์ มีอาการบวมบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง และต้องได้รับออกซิเจนโดยด่วน ส่วน ลิซโต ต้องเข้าผ่าตัดหลอดเลือดบริเวณลำคอ แต่โชคดีที่น้องหมาทั้งสองตัวรอดชีวิตมาได้
 
     งูหางกระดิ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐคอนเนทิคัต เป็นงูชนิดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิต และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของสัตว์เลี้ยงและคนในรัฐ ถึงแม้มันจะเป็นงูที่ใกล้สูญพันธ์ุแล้วก็ตาม ลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย ๆ คือ ลำตัวของมันจะเป็นลายทางน้ำตาลออกแดงสลับดำ
 
     ถึงมันจะมีสีที่สวยงามแค่ไหน แต่ถ้าใครได้เจอต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงและตัวเองออกจากบริเวณนั้นทันที ไม่ว่ามันจะเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษก็ตาม



11
     นาทีเฉียดตายของน้องหมา 2 ตัว ที่เข้าต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง








     น้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักเจ้าของมาก ๆ พวกเขายอมเอาชีวิตเข้าแลกถ้าเจ้าของได้รับอันตราย เหมือนเรื่องราวของ ‘แทนเนอร์’ น้องหมาสายพันธุ์วิซสลา วัย 3 ปี และ ‘ลิซโต’ น้องหมาสายพันธุ์มินิเอเจอร์ พินช์เชอร์ ที่ต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง
 
     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ บ็อบ เมอร์เรย์ ชายหนุ่มจากรัฐคอนเนทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา บังเอิญได้ยินเสียงเห่าของน้องหมา ดังมาจากสวนหลังบ้าน เขาจึงเดินออกไปดู สิ่งที่เขาเห็นคือ แทนเนอร์ และ ลิซโต กำลังสู้อยู่กับงูหางกระดิ่งที่ยาวเกือบ 1.5 เมตร
 
     บ๊อบ รีบหยิบท่อนไม้เพื่อตีไล่ให้น้องหมาออกห่างจากงู แต่มันสายเกินไป เพราะ แทนเนอร์ และ ลิซโต โดนงูหางกระดิ่งกัดเข้าที่ใบหน้าเต็ม ๆ ซึ่งพิษของงูชนิดนี้ร้ายแรง จนถึงขั้นตายได้
 
     บ๊อบและภรรยา รีบพาน้องหมาทั้งสองตัว ส่งโรงพยาบาลทันที บ๊อบเล่าว่า แทนเนอร์ และ ลิซโต เกือบไม่รอดจากเหตุการณ์นี้แล้ว เพราะโรงพยาบาลที่พวกเขาพาน้องหมาไป ไม่มียาต้านพิษ จึงทำให้ต้องรอส่งตัวยาจากโรงพยาบาลอื่น










  แทนเนอร์ มีอาการบวมบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง และต้องได้รับออกซิเจนโดยด่วน ส่วน ลิซโต ต้องเข้าผ่าตัดหลอดเลือดบริเวณลำคอ แต่โชคดีที่น้องหมาทั้งสองตัวรอดชีวิตมาได้
 
     งูหางกระดิ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐคอนเนทิคัต เป็นงูชนิดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิต และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของสัตว์เลี้ยงและคนในรัฐ ถึงแม้มันจะเป็นงูที่ใกล้สูญพันธ์ุแล้วก็ตาม ลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย ๆ คือ ลำตัวของมันจะเป็นลายทางน้ำตาลออกแดงสลับดำ
 
     ถึงมันจะมีสีที่สวยงามแค่ไหน แต่ถ้าใครได้เจอต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงและตัวเองออกจากบริเวณนั้นทันที ไม่ว่ามันจะเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษก็ตาม



12
     นาทีเฉียดตายของน้องหมา 2 ตัว ที่เข้าต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง








     น้องหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่รักเจ้าของมาก ๆ พวกเขายอมเอาชีวิตเข้าแลกถ้าเจ้าของได้รับอันตราย เหมือนเรื่องราวของ ‘แทนเนอร์’ น้องหมาสายพันธุ์วิซสลา วัย 3 ปี และ ‘ลิซโต’ น้องหมาสายพันธุ์มินิเอเจอร์ พินช์เชอร์ ที่ต่อสู้ปกป้องเจ้าของจากงูหางกระดิ่ง
 
     เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ บ็อบ เมอร์เรย์ ชายหนุ่มจากรัฐคอนเนทิคัต ประเทศสหรัฐอเมริกา บังเอิญได้ยินเสียงเห่าของน้องหมา ดังมาจากสวนหลังบ้าน เขาจึงเดินออกไปดู สิ่งที่เขาเห็นคือ แทนเนอร์ และ ลิซโต กำลังสู้อยู่กับงูหางกระดิ่งที่ยาวเกือบ 1.5 เมตร
 
     บ๊อบ รีบหยิบท่อนไม้เพื่อตีไล่ให้น้องหมาออกห่างจากงู แต่มันสายเกินไป เพราะ แทนเนอร์ และ ลิซโต โดนงูหางกระดิ่งกัดเข้าที่ใบหน้าเต็ม ๆ ซึ่งพิษของงูชนิดนี้ร้ายแรง จนถึงขั้นตายได้
 
     บ๊อบและภรรยา รีบพาน้องหมาทั้งสองตัว ส่งโรงพยาบาลทันที บ๊อบเล่าว่า แทนเนอร์ และ ลิซโต เกือบไม่รอดจากเหตุการณ์นี้แล้ว เพราะโรงพยาบาลที่พวกเขาพาน้องหมาไป ไม่มียาต้านพิษ จึงทำให้ต้องรอส่งตัวยาจากโรงพยาบาลอื่น










  แทนเนอร์ มีอาการบวมบริเวณใบหน้าอย่างรุนแรง และต้องได้รับออกซิเจนโดยด่วน ส่วน ลิซโต ต้องเข้าผ่าตัดหลอดเลือดบริเวณลำคอ แต่โชคดีที่น้องหมาทั้งสองตัวรอดชีวิตมาได้
 
     งูหางกระดิ่งที่อาศัยอยู่ในรัฐคอนเนทิคัต เป็นงูชนิดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิต และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตส่วนใหญ่ของสัตว์เลี้ยงและคนในรัฐ ถึงแม้มันจะเป็นงูที่ใกล้สูญพันธ์ุแล้วก็ตาม ลักษณะพิเศษที่สังเกตได้ง่าย ๆ คือ ลำตัวของมันจะเป็นลายทางน้ำตาลออกแดงสลับดำ
 
     ถึงมันจะมีสีที่สวยงามแค่ไหน แต่ถ้าใครได้เจอต้องรีบพาสัตว์เลี้ยงและตัวเองออกจากบริเวณนั้นทันที ไม่ว่ามันจะเป็นงูมีพิษหรือไม่มีพิษก็ตาม



13
ห้องสมุดในแคนาดาจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้คนทั่วไปมานั่งอ่านหนังสือกับน้องหมา









    ทางหอสมุดของเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป โดยการพาน้องหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกัน
 
     ทานากะ แคนดี้ ผู้จัดกิจกรรมและผู้ประสานงานของโครงการนี้ เล่าว่า เธออยากสร้างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เด็ก ๆ และบุคคลทั่วไป ได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งในการอ่านหนังสือร่วมกับน้องหมาแสนน่ารัก รวมถึงการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเจ้าของและน้องหมา
 
     โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ คือ น้องหมาที่มาเป็นอาสาสมัครต้องมากับเจ้าของเท่านั้น และคนที่ต้องการร่วมกิจกรรมต้องมาลงทะเบียนที่สวนสาธารณะจอร์น เฮนดรี ถ้าเกิดผู้ที่เข้าร่วมเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ต้องมีผู้ปกครองมาด้วย






    การอ่านหนังสือกับน้องหมาจะใช้เวลา 15 นาที และหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นบทกวียอดนิยมมากมาย ทุกคนสามารถเลือกหนังสือและนำไปนั่งอ่านกับน้องหมาได้เลย
 
     กิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและน้องหมาแล้ว ยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการอ่านกับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วยนะ



14
ห้องสมุดในแคนาดาจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้คนทั่วไปมานั่งอ่านหนังสือกับน้องหมา









    ทางหอสมุดของเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป โดยการพาน้องหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกัน
 
     ทานากะ แคนดี้ ผู้จัดกิจกรรมและผู้ประสานงานของโครงการนี้ เล่าว่า เธออยากสร้างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เด็ก ๆ และบุคคลทั่วไป ได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งในการอ่านหนังสือร่วมกับน้องหมาแสนน่ารัก รวมถึงการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเจ้าของและน้องหมา
 
     โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ คือ น้องหมาที่มาเป็นอาสาสมัครต้องมากับเจ้าของเท่านั้น และคนที่ต้องการร่วมกิจกรรมต้องมาลงทะเบียนที่สวนสาธารณะจอร์น เฮนดรี ถ้าเกิดผู้ที่เข้าร่วมเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ต้องมีผู้ปกครองมาด้วย






    การอ่านหนังสือกับน้องหมาจะใช้เวลา 15 นาที และหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นบทกวียอดนิยมมากมาย ทุกคนสามารถเลือกหนังสือและนำไปนั่งอ่านกับน้องหมาได้เลย
 
     กิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและน้องหมาแล้ว ยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการอ่านกับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วยนะ



15
ห้องสมุดในแคนาดาจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้คนทั่วไปมานั่งอ่านหนังสือกับน้องหมา









    ทางหอสมุดของเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ได้จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป โดยการพาน้องหมามานั่งอ่านหนังสือด้วยกัน
 
     ทานากะ แคนดี้ ผู้จัดกิจกรรมและผู้ประสานงานของโครงการนี้ เล่าว่า เธออยากสร้างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เด็ก ๆ และบุคคลทั่วไป ได้ใช้เวลาช่วงหนึ่งในการอ่านหนังสือร่วมกับน้องหมาแสนน่ารัก รวมถึงการใช้เวลาร่วมกันระหว่างเจ้าของและน้องหมา
 
     โดยมีเงื่อนไขง่าย ๆ คือ น้องหมาที่มาเป็นอาสาสมัครต้องมากับเจ้าของเท่านั้น และคนที่ต้องการร่วมกิจกรรมต้องมาลงทะเบียนที่สวนสาธารณะจอร์น เฮนดรี ถ้าเกิดผู้ที่เข้าร่วมเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปี ต้องมีผู้ปกครองมาด้วย






    การอ่านหนังสือกับน้องหมาจะใช้เวลา 15 นาที และหนังสือส่วนใหญ่จะเป็นบทกวียอดนิยมมากมาย ทุกคนสามารถเลือกหนังสือและนำไปนั่งอ่านกับน้องหมาได้เลย
 
     กิจกรรมครั้งนี้ นอกจากจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและน้องหมาแล้ว ยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้ฝึกทักษะการอ่านกับคุณพ่อคุณแม่อีกด้วยนะ



หน้า:
  • 1 (current)
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • ...
  • 32