แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

46
     การรับเลี้ยงแมวหนึ่งตัวอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ไม่มาก แต่มันก็ทำให้โลกทั้งใบของแมวเหมียวเปลี่ยนไปจากเดิม อย่างเช่นเรื่องราวของอดีตแมวลูกแมวจรตัวหนึ่ง ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าเหมียวตัวกลมสุดน่ารักไปแล้ว



     พบกับความเปลี่ยนแปลงของแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากแมวจรตัวผอมแห้งน่าสงสาร ไปเป็นแมวเหมียวตัวกลมสุดน่ารักของคุณพ่อ หลังจากถูกรับมาเลี้ยงดูอย่างดีชีวิตของมันก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

     ภาพในอดีตของแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่เคยเป็นลูกแมวจรอาศัยอยู่ข้างถนน แต่วันหนึ่งชีวิตของมันก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เมื่อมีคนรับมาเลี้ยงดูทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่สุขสบาย



ปัจจุบันเจ้าเหมียวตัวเดิมได้เปลี่ยนแปลงไปมาก มันกลายเป็นน้องแมวที่ตัวอ้วนกลม ขนนุ่ม และดูดีมีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่าแมวตัวไหน ต้องขอบคุณคนที่รับมันมาเลี้ยงที่ทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น



จากเจ้าเหมียวจรน่าสงสารในวันนั้น ก็กลายเป็นแมวที่ใช้ชีวิตอย่างแสนสบายและมีความสุข ไม่ต้องกังวลกับเรื่องอะไร และยังทำตัวป่วนและซนได้เต็มที่ตลอดเวลา ภาพจากคุณ Django Toretto


47
     การรับเลี้ยงแมวหนึ่งตัวอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ไม่มาก แต่มันก็ทำให้โลกทั้งใบของแมวเหมียวเปลี่ยนไปจากเดิม อย่างเช่นเรื่องราวของอดีตแมวลูกแมวจรตัวหนึ่ง ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าเหมียวตัวกลมสุดน่ารักไปแล้ว



     พบกับความเปลี่ยนแปลงของแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากแมวจรตัวผอมแห้งน่าสงสาร ไปเป็นแมวเหมียวตัวกลมสุดน่ารักของคุณพ่อ หลังจากถูกรับมาเลี้ยงดูอย่างดีชีวิตของมันก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

     ภาพในอดีตของแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่เคยเป็นลูกแมวจรอาศัยอยู่ข้างถนน แต่วันหนึ่งชีวิตของมันก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เมื่อมีคนรับมาเลี้ยงดูทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่สุขสบาย



ปัจจุบันเจ้าเหมียวตัวเดิมได้เปลี่ยนแปลงไปมาก มันกลายเป็นน้องแมวที่ตัวอ้วนกลม ขนนุ่ม และดูดีมีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่าแมวตัวไหน ต้องขอบคุณคนที่รับมันมาเลี้ยงที่ทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น



จากเจ้าเหมียวจรน่าสงสารในวันนั้น ก็กลายเป็นแมวที่ใช้ชีวิตอย่างแสนสบายและมีความสุข ไม่ต้องกังวลกับเรื่องอะไร และยังทำตัวป่วนและซนได้เต็มที่ตลอดเวลา ภาพจากคุณ Django Toretto


48
     การรับเลี้ยงแมวหนึ่งตัวอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ไม่มาก แต่มันก็ทำให้โลกทั้งใบของแมวเหมียวเปลี่ยนไปจากเดิม อย่างเช่นเรื่องราวของอดีตแมวลูกแมวจรตัวหนึ่ง ที่ตอนนี้กลายเป็นเจ้าเหมียวตัวกลมสุดน่ารักไปแล้ว



     พบกับความเปลี่ยนแปลงของแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่เปลี่ยนจากแมวจรตัวผอมแห้งน่าสงสาร ไปเป็นแมวเหมียวตัวกลมสุดน่ารักของคุณพ่อ หลังจากถูกรับมาเลี้ยงดูอย่างดีชีวิตของมันก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

     ภาพในอดีตของแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่เคยเป็นลูกแมวจรอาศัยอยู่ข้างถนน แต่วันหนึ่งชีวิตของมันก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เมื่อมีคนรับมาเลี้ยงดูทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่สุขสบาย



ปัจจุบันเจ้าเหมียวตัวเดิมได้เปลี่ยนแปลงไปมาก มันกลายเป็นน้องแมวที่ตัวอ้วนกลม ขนนุ่ม และดูดีมีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่าแมวตัวไหน ต้องขอบคุณคนที่รับมันมาเลี้ยงที่ทำให้มันได้มีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น



จากเจ้าเหมียวจรน่าสงสารในวันนั้น ก็กลายเป็นแมวที่ใช้ชีวิตอย่างแสนสบายและมีความสุข ไม่ต้องกังวลกับเรื่องอะไร และยังทำตัวป่วนและซนได้เต็มที่ตลอดเวลา ภาพจากคุณ Django Toretto


49
ช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ มีทั้งพลุ ประทัด ซึ่งเสียงเหล่านี้เองทำให้น้องหมาของเรามันกลัว หรือบางตัวตกใจถึงขั้นวิ่งหนีไปเลยก็มี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีป้องกัน ไม่ให้น้องหมากลัวเสียงพลุ นั่นเอง เพราะเราต้องเตรียมตัวให้น้องหมาอยู่ที่ปลอดภัยหรือไม่ให้กลัวเสียงพลุหรือประทัดอย่างเร่งด่วนเลยแหละ ไปดูกันเลยครับ



1.   พาน้องหมามาไว้ในบ้าน หรือเก็บไว้ในกรง



          วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วครับ ไม่ใช้เวลามาก และไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการดูแล ที่สำคัญน้องหมาไม่หนีหายออกไปจากบ้านแน่นอน เพราะเราปิดมิดชิดแหละ

2.   คอยอยู่กับสุนัขและนวดผ่อนคลาย



          การสัมผัส คอยกอด และนวด คือการช่วยให้พวกเขาคลายกังวล จึงไม่น่าแปลกใจที่น้องหมาจะชื่นชอบการสัมผัส นั่นเพราะจะช่วยให้พวกเขาสงบลงได้ รู้สึกมั่นคง เพียงแต่เราต้องสัมผัสพวกเขาในขณะที่น้องหมาสั่นและกลัว ให้เราเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เริ่มแรกน้องหมาอาจจะยังตื่นกลัวอยู่แต่สักพักก็จะรู้สึกวางใจ ค่อยๆนวดแล้วกอดเค้าไว้ครับ น้องหมาจะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา ทำให้เค้าไม่กลัวเสียงพลุนั่นเอง

3.   ฝึกให้น้องหมาชินกับเสียงดัง



          การฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยและคุ้นชินกับเสียงดัง สามารถสงบสติอารมณ์ ไม่ตื่นตระหนกได้ ซึ่งการฝึกให้น้องหมาคุ้นชินได้นั้น คือการทำให้พวกเขามั่นใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ทำอันตรายนั่นเองค่ะ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยฝึกพวกเขาบ่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างสม่ำเสมอจนพวกเขาเคยชินกับเสียงและไม่กลัว วิธีการง่ายๆคือการเปิดเสียงพลุ เสียงประทัดให้เค้าฟังบ่อยๆ แล้วสังเกตุพฤติกรรม จนน้องหมาชินกับเสียงเหล่านี้

4.   วิธีสุดท้าย ใส่เสื้อป้องกันการตกใจ



          วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายแล้ว ให้น้องหมาใส่เสื้อป้องกันการตกใจ สามารถช่วยให้น้องหมาสงบสติลงได้เมื่อได้ยินเสียงพลุหรือเสียงฟ้า โดยตัวหลักการของเสื้อคือการใส่ชุดที่รัดกระชับบริเวณอก ไหล่ และใต้ท้องน้องหมา เพราะวิธีนี้ทุกคนใช้แล้วได้ผลแน่นอนครับ


50
ช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ มีทั้งพลุ ประทัด ซึ่งเสียงเหล่านี้เองทำให้น้องหมาของเรามันกลัว หรือบางตัวตกใจถึงขั้นวิ่งหนีไปเลยก็มี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีป้องกัน ไม่ให้น้องหมากลัวเสียงพลุ นั่นเอง เพราะเราต้องเตรียมตัวให้น้องหมาอยู่ที่ปลอดภัยหรือไม่ให้กลัวเสียงพลุหรือประทัดอย่างเร่งด่วนเลยแหละ ไปดูกันเลยครับ



1.   พาน้องหมามาไว้ในบ้าน หรือเก็บไว้ในกรง



          วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วครับ ไม่ใช้เวลามาก และไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการดูแล ที่สำคัญน้องหมาไม่หนีหายออกไปจากบ้านแน่นอน เพราะเราปิดมิดชิดแหละ

2.   คอยอยู่กับสุนัขและนวดผ่อนคลาย



          การสัมผัส คอยกอด และนวด คือการช่วยให้พวกเขาคลายกังวล จึงไม่น่าแปลกใจที่น้องหมาจะชื่นชอบการสัมผัส นั่นเพราะจะช่วยให้พวกเขาสงบลงได้ รู้สึกมั่นคง เพียงแต่เราต้องสัมผัสพวกเขาในขณะที่น้องหมาสั่นและกลัว ให้เราเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เริ่มแรกน้องหมาอาจจะยังตื่นกลัวอยู่แต่สักพักก็จะรู้สึกวางใจ ค่อยๆนวดแล้วกอดเค้าไว้ครับ น้องหมาจะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา ทำให้เค้าไม่กลัวเสียงพลุนั่นเอง

3.   ฝึกให้น้องหมาชินกับเสียงดัง



          การฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยและคุ้นชินกับเสียงดัง สามารถสงบสติอารมณ์ ไม่ตื่นตระหนกได้ ซึ่งการฝึกให้น้องหมาคุ้นชินได้นั้น คือการทำให้พวกเขามั่นใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ทำอันตรายนั่นเองค่ะ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยฝึกพวกเขาบ่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างสม่ำเสมอจนพวกเขาเคยชินกับเสียงและไม่กลัว วิธีการง่ายๆคือการเปิดเสียงพลุ เสียงประทัดให้เค้าฟังบ่อยๆ แล้วสังเกตุพฤติกรรม จนน้องหมาชินกับเสียงเหล่านี้

4.   วิธีสุดท้าย ใส่เสื้อป้องกันการตกใจ



          วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายแล้ว ให้น้องหมาใส่เสื้อป้องกันการตกใจ สามารถช่วยให้น้องหมาสงบสติลงได้เมื่อได้ยินเสียงพลุหรือเสียงฟ้า โดยตัวหลักการของเสื้อคือการใส่ชุดที่รัดกระชับบริเวณอก ไหล่ และใต้ท้องน้องหมา เพราะวิธีนี้ทุกคนใช้แล้วได้ผลแน่นอนครับ


51
ช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ มีทั้งพลุ ประทัด ซึ่งเสียงเหล่านี้เองทำให้น้องหมาของเรามันกลัว หรือบางตัวตกใจถึงขั้นวิ่งหนีไปเลยก็มี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีป้องกัน ไม่ให้น้องหมากลัวเสียงพลุ นั่นเอง เพราะเราต้องเตรียมตัวให้น้องหมาอยู่ที่ปลอดภัยหรือไม่ให้กลัวเสียงพลุหรือประทัดอย่างเร่งด่วนเลยแหละ ไปดูกันเลยครับ



1.   พาน้องหมามาไว้ในบ้าน หรือเก็บไว้ในกรง



          วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วครับ ไม่ใช้เวลามาก และไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการดูแล ที่สำคัญน้องหมาไม่หนีหายออกไปจากบ้านแน่นอน เพราะเราปิดมิดชิดแหละ

2.   คอยอยู่กับสุนัขและนวดผ่อนคลาย



          การสัมผัส คอยกอด และนวด คือการช่วยให้พวกเขาคลายกังวล จึงไม่น่าแปลกใจที่น้องหมาจะชื่นชอบการสัมผัส นั่นเพราะจะช่วยให้พวกเขาสงบลงได้ รู้สึกมั่นคง เพียงแต่เราต้องสัมผัสพวกเขาในขณะที่น้องหมาสั่นและกลัว ให้เราเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เริ่มแรกน้องหมาอาจจะยังตื่นกลัวอยู่แต่สักพักก็จะรู้สึกวางใจ ค่อยๆนวดแล้วกอดเค้าไว้ครับ น้องหมาจะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา ทำให้เค้าไม่กลัวเสียงพลุนั่นเอง

3.   ฝึกให้น้องหมาชินกับเสียงดัง



          การฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยและคุ้นชินกับเสียงดัง สามารถสงบสติอารมณ์ ไม่ตื่นตระหนกได้ ซึ่งการฝึกให้น้องหมาคุ้นชินได้นั้น คือการทำให้พวกเขามั่นใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ทำอันตรายนั่นเองค่ะ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยฝึกพวกเขาบ่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างสม่ำเสมอจนพวกเขาเคยชินกับเสียงและไม่กลัว วิธีการง่ายๆคือการเปิดเสียงพลุ เสียงประทัดให้เค้าฟังบ่อยๆ แล้วสังเกตุพฤติกรรม จนน้องหมาชินกับเสียงเหล่านี้

4.   วิธีสุดท้าย ใส่เสื้อป้องกันการตกใจ



          วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายแล้ว ให้น้องหมาใส่เสื้อป้องกันการตกใจ สามารถช่วยให้น้องหมาสงบสติลงได้เมื่อได้ยินเสียงพลุหรือเสียงฟ้า โดยตัวหลักการของเสื้อคือการใส่ชุดที่รัดกระชับบริเวณอก ไหล่ และใต้ท้องน้องหมา เพราะวิธีนี้ทุกคนใช้แล้วได้ผลแน่นอนครับ


52
ช่วงเทศกาลลอยกระทงนี้ มีทั้งพลุ ประทัด ซึ่งเสียงเหล่านี้เองทำให้น้องหมาของเรามันกลัว หรือบางตัวตกใจถึงขั้นวิ่งหนีไปเลยก็มี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีป้องกัน ไม่ให้น้องหมากลัวเสียงพลุ นั่นเอง เพราะเราต้องเตรียมตัวให้น้องหมาอยู่ที่ปลอดภัยหรือไม่ให้กลัวเสียงพลุหรือประทัดอย่างเร่งด่วนเลยแหละ ไปดูกันเลยครับ



1.   พาน้องหมามาไว้ในบ้าน หรือเก็บไว้ในกรง



          วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วครับ ไม่ใช้เวลามาก และไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการดูแล ที่สำคัญน้องหมาไม่หนีหายออกไปจากบ้านแน่นอน เพราะเราปิดมิดชิดแหละ

2.   คอยอยู่กับสุนัขและนวดผ่อนคลาย



          การสัมผัส คอยกอด และนวด คือการช่วยให้พวกเขาคลายกังวล จึงไม่น่าแปลกใจที่น้องหมาจะชื่นชอบการสัมผัส นั่นเพราะจะช่วยให้พวกเขาสงบลงได้ รู้สึกมั่นคง เพียงแต่เราต้องสัมผัสพวกเขาในขณะที่น้องหมาสั่นและกลัว ให้เราเข้าไปนั่งใกล้ ๆ เริ่มแรกน้องหมาอาจจะยังตื่นกลัวอยู่แต่สักพักก็จะรู้สึกวางใจ ค่อยๆนวดแล้วกอดเค้าไว้ครับ น้องหมาจะรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเรา ทำให้เค้าไม่กลัวเสียงพลุนั่นเอง

3.   ฝึกให้น้องหมาชินกับเสียงดัง



          การฝึกให้น้องหมาคุ้นเคยและคุ้นชินกับเสียงดัง สามารถสงบสติอารมณ์ ไม่ตื่นตระหนกได้ ซึ่งการฝึกให้น้องหมาคุ้นชินได้นั้น คือการทำให้พวกเขามั่นใจว่าเสียงเหล่านั้นไม่ทำอันตรายนั่นเองค่ะ ผู้เลี้ยงจึงต้องคอยฝึกพวกเขาบ่อย ๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกอย่างสม่ำเสมอจนพวกเขาเคยชินกับเสียงและไม่กลัว วิธีการง่ายๆคือการเปิดเสียงพลุ เสียงประทัดให้เค้าฟังบ่อยๆ แล้วสังเกตุพฤติกรรม จนน้องหมาชินกับเสียงเหล่านี้

4.   วิธีสุดท้าย ใส่เสื้อป้องกันการตกใจ



          วิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายแล้ว ให้น้องหมาใส่เสื้อป้องกันการตกใจ สามารถช่วยให้น้องหมาสงบสติลงได้เมื่อได้ยินเสียงพลุหรือเสียงฟ้า โดยตัวหลักการของเสื้อคือการใส่ชุดที่รัดกระชับบริเวณอก ไหล่ และใต้ท้องน้องหมา เพราะวิธีนี้ทุกคนใช้แล้วได้ผลแน่นอนครับ


53
มีลูกแมวจรจัดมากมายที่ไม่ได้รับโอกาสใช้ชีวิตดี ๆ เหมือนกับแมวบ้านทั่ว ๆ ไป พวกมันต้องอาศัยอยู่ข้างถนน แต่บางครั้งก็มีแมวบางตัวได้รับการช่วยชีวิตไว้เหมือนกัน และนี่คือเรื่องราวของลูกแมวจากกองขยะที่ได้รับการช่วยเหลือ จนตอนนี้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสอีกครั้ง



ลูกแมวตัวน้อยโดนคนใจร้ายทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะมีพลเมืองดีพบเห็นและช่วยน้องเอาไว้ ซึ่งพลเมืองดีคนดังกล่าวได้ประกาศหาบ้านในกลุ่มคนรักน้องแมว อุดร และทำให้คุณแฮมได้ติดต่อขอรับเลี้ยงเอาไว้



ซึ่งหลังจากที่เขารับมาเลี้ยงก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ป้อนนมแพะ และห่มผ้าให้ความอบอุ่นอย่างดี โดยเขาตั้งชื่อน้องว่า แป๋วแหวว



น้องแป๋วแหววเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นเสมือนนายหญิงประจำบ้าน นางชอบนั่งท่าแปลก ๆ อยู่เสมอ



ไม่กี่เดือนต่อมานางก็เติบโตขึ้นมาน่ารักไม่ต่างจากแมวตัวไหน ๆ แสดงให้เห็นถึงการได้รับความรัก ความเอาใจใส่ ที่น้องได้รับมาอย่างดีนั้นเอง





หากใครชื่นชอบน้อง ก็สามารถไปติดตามต่อได้ที่แฟนเพจ ด.ญ.แป๋วแหวว กันได้เลย

ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/mawewcat


54
มีลูกแมวจรจัดมากมายที่ไม่ได้รับโอกาสใช้ชีวิตดี ๆ เหมือนกับแมวบ้านทั่ว ๆ ไป พวกมันต้องอาศัยอยู่ข้างถนน แต่บางครั้งก็มีแมวบางตัวได้รับการช่วยชีวิตไว้เหมือนกัน และนี่คือเรื่องราวของลูกแมวจากกองขยะที่ได้รับการช่วยเหลือ จนตอนนี้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสอีกครั้ง



ลูกแมวตัวน้อยโดนคนใจร้ายทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะมีพลเมืองดีพบเห็นและช่วยน้องเอาไว้ ซึ่งพลเมืองดีคนดังกล่าวได้ประกาศหาบ้านในกลุ่มคนรักน้องแมว อุดร และทำให้คุณแฮมได้ติดต่อขอรับเลี้ยงเอาไว้



ซึ่งหลังจากที่เขารับมาเลี้ยงก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ป้อนนมแพะ และห่มผ้าให้ความอบอุ่นอย่างดี โดยเขาตั้งชื่อน้องว่า แป๋วแหวว



น้องแป๋วแหววเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นเสมือนนายหญิงประจำบ้าน นางชอบนั่งท่าแปลก ๆ อยู่เสมอ



ไม่กี่เดือนต่อมานางก็เติบโตขึ้นมาน่ารักไม่ต่างจากแมวตัวไหน ๆ แสดงให้เห็นถึงการได้รับความรัก ความเอาใจใส่ ที่น้องได้รับมาอย่างดีนั้นเอง





หากใครชื่นชอบน้อง ก็สามารถไปติดตามต่อได้ที่แฟนเพจ ด.ญ.แป๋วแหวว กันได้เลย

ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/mawewcat


55
มีลูกแมวจรจัดมากมายที่ไม่ได้รับโอกาสใช้ชีวิตดี ๆ เหมือนกับแมวบ้านทั่ว ๆ ไป พวกมันต้องอาศัยอยู่ข้างถนน แต่บางครั้งก็มีแมวบางตัวได้รับการช่วยชีวิตไว้เหมือนกัน และนี่คือเรื่องราวของลูกแมวจากกองขยะที่ได้รับการช่วยเหลือ จนตอนนี้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสอีกครั้ง



ลูกแมวตัวน้อยโดนคนใจร้ายทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะมีพลเมืองดีพบเห็นและช่วยน้องเอาไว้ ซึ่งพลเมืองดีคนดังกล่าวได้ประกาศหาบ้านในกลุ่มคนรักน้องแมว อุดร และทำให้คุณแฮมได้ติดต่อขอรับเลี้ยงเอาไว้



ซึ่งหลังจากที่เขารับมาเลี้ยงก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ป้อนนมแพะ และห่มผ้าให้ความอบอุ่นอย่างดี โดยเขาตั้งชื่อน้องว่า แป๋วแหวว



น้องแป๋วแหววเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นเสมือนนายหญิงประจำบ้าน นางชอบนั่งท่าแปลก ๆ อยู่เสมอ



ไม่กี่เดือนต่อมานางก็เติบโตขึ้นมาน่ารักไม่ต่างจากแมวตัวไหน ๆ แสดงให้เห็นถึงการได้รับความรัก ความเอาใจใส่ ที่น้องได้รับมาอย่างดีนั้นเอง





หากใครชื่นชอบน้อง ก็สามารถไปติดตามต่อได้ที่แฟนเพจ ด.ญ.แป๋วแหวว กันได้เลย

ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/mawewcat


56
มีลูกแมวจรจัดมากมายที่ไม่ได้รับโอกาสใช้ชีวิตดี ๆ เหมือนกับแมวบ้านทั่ว ๆ ไป พวกมันต้องอาศัยอยู่ข้างถนน แต่บางครั้งก็มีแมวบางตัวได้รับการช่วยชีวิตไว้เหมือนกัน และนี่คือเรื่องราวของลูกแมวจากกองขยะที่ได้รับการช่วยเหลือ จนตอนนี้กลับมามีชีวิตใหม่ที่สดใสอีกครั้ง



ลูกแมวตัวน้อยโดนคนใจร้ายทิ้งลงถังขยะ ก่อนจะมีพลเมืองดีพบเห็นและช่วยน้องเอาไว้ ซึ่งพลเมืองดีคนดังกล่าวได้ประกาศหาบ้านในกลุ่มคนรักน้องแมว อุดร และทำให้คุณแฮมได้ติดต่อขอรับเลี้ยงเอาไว้



ซึ่งหลังจากที่เขารับมาเลี้ยงก็คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ป้อนนมแพะ และห่มผ้าให้ความอบอุ่นอย่างดี โดยเขาตั้งชื่อน้องว่า แป๋วแหวว



น้องแป๋วแหววเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นเสมือนนายหญิงประจำบ้าน นางชอบนั่งท่าแปลก ๆ อยู่เสมอ



ไม่กี่เดือนต่อมานางก็เติบโตขึ้นมาน่ารักไม่ต่างจากแมวตัวไหน ๆ แสดงให้เห็นถึงการได้รับความรัก ความเอาใจใส่ ที่น้องได้รับมาอย่างดีนั้นเอง





หากใครชื่นชอบน้อง ก็สามารถไปติดตามต่อได้ที่แฟนเพจ ด.ญ.แป๋วแหวว กันได้เลย

ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/mawewcat


57
       สำหรับคนรักสัตว์มีเรื่องราวน่ารักมากมายบนโลกใบนี้ ที่มีสัตว์เป็นเพื่อนกับมนุษย์เสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขนั้นเอง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ชิวาว่า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีขนส่ง โดยเป็นพนักงานที่สถานีรถบัสในประเทศบราซิล พบกับ Chiquita



       เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อ Chiquita อายุ 9 ปีได้รับการอุปการะจาก Adelsionir และ Mariani ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนใหม่ ทั้งคู่เป็นพนักงงานหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ในเมืองบลูเมเนา และแทนที่พวกเขาจะปล่อยให้สุนัขตัวเล็ก ๆ อยู่บ้านคนเดียวตลอดทั้งวันในขณะที่กำลังทำงาน ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะมอบหมายงานให้กับเจ้า Chiquita



       โดย Chiquita ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการเฝ้าดูลูกค้าที่จะเข้ามา พร้อมทั้งใช้ความน่ารักต้อนรับลูกค้า ซึ่งมันเองก็ชอบที่จะอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ด้านหน้า เพราะสามารถสอดส่องและเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน ซึ่งลูกค้าที่ผ่านไปมาก็ชื่นชอบมันมากด้วยเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม Chiquita ไม่จำเป็นต้องจัดการกับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ว่ามันก็สามารถทำงานได้ดีมากๆเลยล่ะ

       Adelsionir กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่มีความสำคัญต่อพวกเขาสิ่งที่พวกเขาต้องการคือการรู้สึกถึงความรักในแบบเดียวกับที่พวกเขารักโดยไม่มีเงื่อนไข และแน่นอนว่า Chiquita ทำให้พวกเขารู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ




58
       สำหรับคนรักสัตว์มีเรื่องราวน่ารักมากมายบนโลกใบนี้ ที่มีสัตว์เป็นเพื่อนกับมนุษย์เสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขนั้นเอง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ชิวาว่า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีขนส่ง โดยเป็นพนักงานที่สถานีรถบัสในประเทศบราซิล พบกับ Chiquita



       เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อ Chiquita อายุ 9 ปีได้รับการอุปการะจาก Adelsionir และ Mariani ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนใหม่ ทั้งคู่เป็นพนักงงานหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ในเมืองบลูเมเนา และแทนที่พวกเขาจะปล่อยให้สุนัขตัวเล็ก ๆ อยู่บ้านคนเดียวตลอดทั้งวันในขณะที่กำลังทำงาน ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะมอบหมายงานให้กับเจ้า Chiquita



       โดย Chiquita ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการเฝ้าดูลูกค้าที่จะเข้ามา พร้อมทั้งใช้ความน่ารักต้อนรับลูกค้า ซึ่งมันเองก็ชอบที่จะอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ด้านหน้า เพราะสามารถสอดส่องและเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน ซึ่งลูกค้าที่ผ่านไปมาก็ชื่นชอบมันมากด้วยเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม Chiquita ไม่จำเป็นต้องจัดการกับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ว่ามันก็สามารถทำงานได้ดีมากๆเลยล่ะ

       Adelsionir กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่มีความสำคัญต่อพวกเขาสิ่งที่พวกเขาต้องการคือการรู้สึกถึงความรักในแบบเดียวกับที่พวกเขารักโดยไม่มีเงื่อนไข และแน่นอนว่า Chiquita ทำให้พวกเขารู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ




59
       สำหรับคนรักสัตว์มีเรื่องราวน่ารักมากมายบนโลกใบนี้ ที่มีสัตว์เป็นเพื่อนกับมนุษย์เสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขนั้นเอง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ชิวาว่า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีขนส่ง โดยเป็นพนักงานที่สถานีรถบัสในประเทศบราซิล พบกับ Chiquita



       เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อ Chiquita อายุ 9 ปีได้รับการอุปการะจาก Adelsionir และ Mariani ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนใหม่ ทั้งคู่เป็นพนักงงานหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ในเมืองบลูเมเนา และแทนที่พวกเขาจะปล่อยให้สุนัขตัวเล็ก ๆ อยู่บ้านคนเดียวตลอดทั้งวันในขณะที่กำลังทำงาน ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะมอบหมายงานให้กับเจ้า Chiquita



       โดย Chiquita ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการเฝ้าดูลูกค้าที่จะเข้ามา พร้อมทั้งใช้ความน่ารักต้อนรับลูกค้า ซึ่งมันเองก็ชอบที่จะอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ด้านหน้า เพราะสามารถสอดส่องและเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน ซึ่งลูกค้าที่ผ่านไปมาก็ชื่นชอบมันมากด้วยเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม Chiquita ไม่จำเป็นต้องจัดการกับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ว่ามันก็สามารถทำงานได้ดีมากๆเลยล่ะ

       Adelsionir กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่มีความสำคัญต่อพวกเขาสิ่งที่พวกเขาต้องการคือการรู้สึกถึงความรักในแบบเดียวกับที่พวกเขารักโดยไม่มีเงื่อนไข และแน่นอนว่า Chiquita ทำให้พวกเขารู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ




60
       สำหรับคนรักสัตว์มีเรื่องราวน่ารักมากมายบนโลกใบนี้ ที่มีสัตว์เป็นเพื่อนกับมนุษย์เสมอ และหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขนั้นเอง วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ชิวาว่า ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีขนส่ง โดยเป็นพนักงานที่สถานีรถบัสในประเทศบราซิล พบกับ Chiquita



       เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อ Chiquita อายุ 9 ปีได้รับการอุปการะจาก Adelsionir และ Mariani ซึ่งเป็นผู้ปกครองคนใหม่ ทั้งคู่เป็นพนักงงานหน้าเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋ว ในเมืองบลูเมเนา และแทนที่พวกเขาจะปล่อยให้สุนัขตัวเล็ก ๆ อยู่บ้านคนเดียวตลอดทั้งวันในขณะที่กำลังทำงาน ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะมอบหมายงานให้กับเจ้า Chiquita



       โดย Chiquita ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการเฝ้าดูลูกค้าที่จะเข้ามา พร้อมทั้งใช้ความน่ารักต้อนรับลูกค้า ซึ่งมันเองก็ชอบที่จะอยู่ที่บริเวณเคาน์เตอร์ด้านหน้า เพราะสามารถสอดส่องและเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างชัดเจน ซึ่งลูกค้าที่ผ่านไปมาก็ชื่นชอบมันมากด้วยเช่นกัน



อย่างไรก็ตาม Chiquita ไม่จำเป็นต้องจัดการกับภาระงานที่ได้รับมอบหมาย แต่ว่ามันก็สามารถทำงานได้ดีมากๆเลยล่ะ

       Adelsionir กล่าวว่า ไม่มีสิ่งใดที่มีความสำคัญต่อพวกเขาสิ่งที่พวกเขาต้องการคือการรู้สึกถึงความรักในแบบเดียวกับที่พวกเขารักโดยไม่มีเงื่อนไข และแน่นอนว่า Chiquita ทำให้พวกเขารู้สึกแบบนั้นได้จริงๆ